21 สิงหาคม 2552

ละลายอัตตา


คนเราเมื่อเริ่มทำงานใหม่ๆ ความเป็นตัวตนเจ้ายศเจ้าอย่างจะมีน้อยมาก.. จะกินอย่างไรก็ได้ จะอยู่อย่างไรก็ได้.. ใครมาติเตียนต่อว่าก็ไม่โกรธ... ต่อมาเมื่อเรียนสูงขึ้น ทำงานมีตำแหน่งหน้าที่ดีขึ้น ก็จะเริ่มรู้สึกถึงความมีอัตตาในตน...

เรียนจบด็อกเตอร์ ทำอะไรผิดพลาดเล็กน้อย หากมีเด็กๆมาติติง... ก็ชักทนไม่ได้ เริ่มก่นด่าว่าไอ้เด็กวัดเมื่อวานซืน ดันกล้ามาติเตียนสังฆราชเยี่ยงเรา.. พอทำงานเริ่มยิ่งใหญ่มียศมีตำแหน่ง น้องๆเอาเอกสารมาให้เซ็นต์ ก็ต้องใส่แฟ้มเอามาให้ ต้องทำท่าพินอบพิเทา ไปไหนมาไหนก็ต้องมีบริวารว่านเครือมารายล้อมให้ดูอลังการ...

เมื่อถึงตอนนี้เราก็จะเริ่มหนัก เริ่มขึ้นรถเมล์ไม่ได้ กลัวเค้าจะเห็นว่ากระจอก... กินข้าวแกงข้างทางไม่ได้เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเป็นไพร่... พูดอะไรต้องใส่ศัพท์แสงเทคนิคให้แพรวพราว จะได้รู้ว่าไอ้เรามันระดับสกอร์ล่าร์ ไม่ใช่เด็กวัดข้างทาง...

วันนี้ผมเลยมาชวนให้พวกเราเหล่าผู้มีอัตตารุงรัง มาละลายอัตตากันซักหน ตื่นเช้าวันหยุด ใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดกระทิงแดง ไปเดินในห้างเอาแบบระดับเอ็มโพเลี่ยมกันเลย... ให้คนเค้าเห็น แน่นอนครับพอคนรู้จักมาทัก เราจะรู้สึกสะเทิ้นอาย หน้าชา... ไม่ต้องกลัว อัตตากำลังจะละลายแล้ว...

พอถึงวันไปทำงาน ลองไปแย่งงานนักการทำดูสักวัน ล้างจานชามที่ลูกน้องกินเหลือ รดน้ำต้นไม้ในสวน ล้างรถสำนักงาน กวาดพื้น ถูพื้น.. ทำใจให้ดีครับ ยางอายมันจะเยิ้มออกมาตารูขุมขน อย่าไปกลัว อย่าไปอาย... เมื่อตอนเข้ามาทำงานใหม่ๆเคยทำได้ ตอนนี้ซีใหญ่ขึ้น ตำแหน่งหน้าที่ใหญ่ขึ้น ก็ต้องทำได้สิว๊ะ...

ลองทำอะไรเปิ่นๆ ผิดพลาดๆ ดูมั่ง เตือนสติว่าเราไม่ใช่เทวดา ทำผิดเป็นเหมือนกัน... ทำผิดแล้ว ก็ลองขอโทษเด็กๆ ลูกน้องดู... สารภาพกับมันว่า ขอโทษที พี่มันควาย ไม่รู้ประสีประสาเลย ขอบคุณน้องนะครับที่ช่วยสั่งสอนพี่.... หน้าแดงร้อนผ่าวเลยสิเจ้านาย อัตตามันกำลังระเหยออกจากใบหน้า ทนไว้ครับเจ้านาย เดี๋ยวก็หมด...

หากยังมีอัตตาเหลืออยู่ ก่อนกลับบ้านลองยกมือไหว้ยามแก่ๆ หน้าสำนักงานดูนะครับ ไหว้ขอบคุณเค้า บอกเค้าว่าขอบคุณที่ช่วยดูแลสำนักงานตอนผมไม่อยู่... ลองดูครับ คิดค้นดูมีหลายรูปแบบครับ กับการละลายอัตตา... พอละลายได้ท่านจะรู้สึกถึงความเบาสบาย อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน.... ขอให้ทุกท่านแคล้วคลาดจากอัตตาแห่งตนนะครับ